น้องฟิล์มเกิดและเติบโตมาในชนบท ครอบครัวเล็ก ๆ ที่แสนจะอบอุ่น มีพ่อแม่และน้องสาว อาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านเดี่ยวสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ รายได้หลักของครอบครัวมาจากการขายส้มตำของแม่​ และงานรับจ้างทั่วไปของพ่อซึ่งไม่ใช่งานประจำ รายได้ไม่แน่นอน​ เมื่อมีคนว่าจ้างพ่อจึงไปทำงาน​ วันไหนไม่มีงาน พ่อก็ช่วยทำงานที่บ้าน​ ครอบครัวเรายังมีรายได้อีกทางหนึ่งจากการขายข้าวเปลือกที่เหลือจากเก็บไว้กินตลอดทั้งปีแล้ว
          ปัจจุบันฟิล์มกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา​ปี​ที่ ​6​ โรงเรี​ยนยโสธร​พิทยาคม​ จ.ยโสธร เป็นเด็กเรียนดี กิจกรรมเด่น เข้าร่วมในทุกกิจกรรมของทางโรงเรียน และมีผลการเรียนที่น่าชื่นชม เทอมล่าสุดได้เกรดเฉลี่ยสูงถึง 3.77 เป็นเรื่องที่สร้างความภาคภูมิใจแก่ตนเองและครอบครัว โดยมีเคล็ดลับการแบ่งเวลามาแบ่งปันให้ทุกคนนำไปทำกัน คือ เวลาเรียน​ของฟิล์มก็เหมือนเด็กปกติทั่วไป คือ ตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน ตั้งใจเรียน​จนถึงเวลาเลิกเรียน หลังจากเลิกเรียนก็พูดคุย​กับเพื่อนๆ เล่นกีฬา​ ทำกิจกรรมต่างๆ พอ​กลับถึงบ้านก็ช่วยทำงานบ้าน ทั้ง​กวาดบ้าน​ ทำกับข้าว​ ล้างจาน​ เสร็จแล้วก็ทำการบ้าน​ พอมีเวลาว่างก็ทบทวนบทเรียนก่อนนอนทำอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน

          นอกจากตั้งใจเรียนและช่วยงานที่บ้านแล้ว ฟิล์มยังทำงานพิเศษโดยใช้ทักษะฝีมือที่อยู่กับตัวมาสร้างรายได้ด้วยการทำงานหัตถกรรมจักสานแปรรูปไม้ไผ่​เป็นผลิตภัณฑ์​ต่างๆ​ เช่น กระติ๊บข้าว​ หวดนึ่งข้าวเหนียว​ กระเป๋า​ เพื่อนำไปจำหน่ายร่วมกับกลุ่มจักสานในหมู่บ้านเพื่อให้มีรายได้เสริม​มาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว
          ฟิล์มเป็นเด็กเก่งดี ที่มีความฝันต่างจากเด็กคนอื่นๆ เพราะน้องมีความฝันว่าในอนาคตอยากรับราชการเป็นครู เพื่อกลับมาพัฒนา​บ้านเกิด​ เพราะเขาเชื่อว่าเด็กจะเก่งต้องมีครูที่เก่งเป็นผู้อบรมสั่งสอน ฟิล์มจึงอยากกลับมาพัฒนา​บ้านเกิด เพื่อให้เด็กๆ ในชุมชนได้รับโอกาส​เหมือนที่ฟิล์มเคยได้รับ​ เพราะเขาก็รักในการสอน​ การแบ่งปัน เพื่อปลูกฝังบ่มเพาะให้ทุกคนเป็นเด็กเก่ง ดี มีน้ำใจ และความกตัญญู​เพื่อให้เติบโต​เป็นผู้ใหญ่​อย่างสมบู​รณ์ เป็นบุคลากรของประเทศที่มีคุณภาพ

Screenshot 2566-04-07 at 17.01.49

          ในช่วงชีวิตของฟิล์มตั้งแต่เกิดและเติบโต เขาเห็น​ความ​ลำบากของพ่อกับแม่เวลาทำงานมาโดยตลอด​ จนเขามีโอกาสลองทำงานเหมือนที่พ่อกับแม่ทำ ทำให้ฟิล์มรู้ว่ามันเหนื่อยมากๆ​ แต่ท่านทั้งสองคนก็บอกกับฟิล์มว่าแค่เหนื่อยมันไม่ตายหรอก​ มันทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง มีกำลังใจและภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค เพราะถ้าอ่อนแอไม่สู้ ไม่ทำอะไร เราถึงจะตาย เพราะไม่มีกิน​ เขาจึงยึดถือพ่อกับแม่เป็นต้นแบบเป็นแบบอย่างของคนสู้ชีวิต และจึงอยากจะฝากกับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเจอเรื่องวุ่นวาย เจอมรสุมชีวิตจนรู้สึกหมดแรงถอดใจไม่อยากสู้ว่า
         “ไม่ว่าจะเป็นใคร หากว่าเจอปัญหาหรืออุปสรรค​ สิ่งต่างๆ​ ถาโถมเข้าในชีวิต อยากให้ตั้งสติแล้วมองกลับไปหาคนที่ตัวเองรักและศรัทธา อย่างผมคือพ่อกับแม่ ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน​ เหนื่อยเพียงใด ท่านทั้งสองยังประคับประคองจนผ่านมาได้ และยังเลี้ยงดูทำให้ลูกคนนี้อยู่รอดและเติบโตมาจนถึงวันนี้​อีก ผมเชื่อว่าหากเราไม่หยุดพยายาม​ มันต้องมีสักวันที่เป็นวันของเรา และในวันที่เราประสบความสำเร็จ มันคือ ความภาคภูมิใจของพ่อแม่ และตัวเองที่ฝ่าฟันผ่านมันมาได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคน ยิ้มสู้ไปด้วยกัน”