เราทุกคนประสบปัญหาชีวิตไม่เท่ากัน บางคนอาจจะเจอปัญหาเล็กน้อย
บางคนอาจจะเจอปัญหาที่ใหญ่มาก แต่ทุกอย่างย่อมมีทางออกของมัน
ขอเพียงแค่เราไม่คิดที่จะยอมแพ้ ไม่ว่ายังไง
เราก็จะหาทางออกให้มันได้เสมอ

นายธีรเดช กุลบุตร (ข้าวโพด)
เด็กเก่ง ใฝ่ดี สู้ชีวิต
นักเรียนทุน SCG Sharing The Dream โดย มูลนิธิเอสซีจี

          เด็กหนุ่มเมืองศรีษะเกษ ที่บ้านทำอาชีพเกษตรกรและค้าขาย เมื่อต้องสูญเสียคุณแม่ไปตั้งแต่วัยประถม และคุณพ่อก็ไปสร้างครอบครัวใหม่ นานๆ ครั้งจึงจะติดต่อกลับมา ข้าวโพดจึงต้องอยู่กับพี่สาวคนกลาง โดยในทุกวันเขาต้องไปช่วยกรีดยาง
ในตอนกลางคืนและตื่นเช้าไปโรงเรียน จนพี่สาวคนโตรู้สึกเห็นใจน้องชายที่ต้องตรากตรำทำงานหนักเกินกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันจึงไปรับมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ตอนเรียนชั้นม.2 โดยพี่สาวมีอาชีพค้าขายส้มตำไก่ย่าง ขับรถขาย ขายทุกวัน หยุดวันจันทร์ ขายตั้งแต่ 9 โมงจนถึงเย็น ข้าวโพดก็จะช่วยขายของ ช่วยสับมะละกอ ย่างไก่ และดูแลหลานชายในการสอนการบ้าน หาข้าวให้กิน พาไปโรงเรียนและรับกลับเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพี่สาว แต่ด้วยอาชีพค้าขายทำให้รายได้ของครอบครัวไม่แน่นอน ข้าวโพด
จึงตัดสินใจไปทำงานพิเศษตามร้านอาหารในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เวลา 13.00 น. – 22.00 น. เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในเรื่องการเรียน

          ข้าวโพดเป็นเด็กเรียนดี มีใจเมตตา และเป็นนักกิจกรรม ในสมัยเรียนมัธยม
เขาร่วมบริจาคหนังสือ ขวดน้ำ และร่วมพับถุงยาเพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาล
ในภาคเหนือ และเคยเป็นตัวแทนแข่งขันหุ่นยนต์แบบ Stamp Robot ทำหุ่นยนต์จาก
เลโก้ และเขียนโปรแกรมจนสามารถคว้ารางวัลที่ 3 จากการแข่งขันของกลุ่มโรงเรียนรอบเขตกรุงเทพมาได้ และสามารถสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสาขาวิศวกรรมเครื่องกลมหาวิทยาลัยศิลปากรได้ ซึ่งเทอมที่ผ่านมา
ถึงจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยแต่เขาก็ทำผลการเรียนได้เกรดเฉลี่ยถึง 2.87 ถือเป็นแบบอย่างของเด็กเก่งและดี

          ในอนาคตเขามีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นวิศวกร เพราะจะได้นำความรู้ที่เรียนมาสร้างประโยชน์ ในการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ และมีแผนจะต่อยอดสร้างธุรกิจส่วนตัวให้ประสบความสำเร็จ ถึงแม้วันนี้แม่จะไม่อยู่แล้ว ไม่มีโอกาสได้เห็นแต่ข้าวโพดเติบโตอย่างงดงาม แต่สำหรับเขาแม่ยังคงอยู่ในใจเสมอ แม่เป็นต้นแบบและแรงผลักดันให้ชีวิตเขาก้าวไปข้างหน้าแม้ว่าจะเจออุปสรรคมากมายก็ตาม เพราะแม่เป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่งไม่ว่าจะเจอปัญหามากน้อยแค่ไหน แม่ไม่เคยทำให้คนรอบข้าง คนในครอบครัวลำบากใจ กังวลใจ ไม่สบายใจไปด้วยเลยสักครั้ง แม่จะยิ้มสู้และพยายามให้ข้าวโพดยิ้มอยู่ตลอดเวลา และหาทางแก้ปัญหาไปให้ได้ คำสอนของแม่ทุกคำเป็นเป้าหลอมให้เขาเป็นนักสู้และไม่ย่อท้อต่อปัญหา จึงอยากจะฝากกำลังใจถึงเพื่อนๆ อีกหลายคน
ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับปัญหาว่า

          “เราทุกคนต่างประสบปัญหาชีวิตไม่เท่ากัน บางคนอาจจะเจอปัญหาเล็ก ๆ
น้อย ๆ เช่น หกล้ม ทำเงินหาย หรือบางคนอาจจะเจอปัญหาที่ใหญ่มาก ๆ เช่น บ้านมีหนี้สินหลายล้าน ตอนนี้เงินในครอบครัวไม่มีเลยสักบาท แต่ผมเชื่อเสมอว่าทุกอย่างย่อมมีทางออกของมัน ขอเพียงแค่เราไม่คิดที่จะยอมแพ้ ไม่ว่ายังไงเราก็จะหาทางออกให้มันได้เสมอ ยิ้มสู้กับทุกปัญหาและฝ่าฟันไปให้ได้นะครับ”

          เด็กหนุ่มเมืองศรีษะเกษ ที่บ้านทำอาชีพเกษตรกรและค้าขาย เมื่อต้องสูญเสียคุณแม่ไปตั้งแต่วัยประถม และคุณพ่อก็ไปสร้างครอบครัวใหม่ นานๆ ครั้งจึงจะติดต่อกลับมา ข้าวโพดจึงต้องอยู่กับพี่สาวคนกลาง โดยในทุกวันเขาต้องไปช่วยกรีดยางในตอนกลางคืนและตื่นเช้าไปโรงเรียน จนพี่สาวคนโตรู้สึกเห็นใจน้องชายที่ต้องตรากตรำทำงานหนักเกินกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันจึงไปรับมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ตอนเรียนชั้นม.2 โดยพี่สาวมีอาชีพค้าขายส้มตำไก่ย่าง ขับรถขาย ขายทุกวัน หยุดวันจันทร์ ขายตั้งแต่ 9 โมงจนถึงเย็น ข้าวโพดก็จะช่วยขายของ ช่วยสับมะละกอ ย่างไก่ และดูแลหลานชายในการสอนการบ้าน หาข้าวให้กิน พาไปโรงเรียนและรับกลับเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพี่สาว แต่ด้วยอาชีพค้าขายทำให้รายได้ของครอบครัวไม่แน่นอน ข้าวโพดจึงตัดสินใจไปทำงานพิเศษตามร้านอาหารในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เวลา 13.00 น. – 22.00 น. เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวในเรื่องการเรียน

          ข้าวโพดเป็นเด็กเรียนดี มีใจเมตตา และเป็นนักกิจกรรม ในสมัยเรียนมัธยมเขาร่วมบริจาคหนังสือ ขวดน้ำ และร่วมพับถุงยาเพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาลในภาคเหนือ และเคยเป็นตัวแทนแข่งขันหุ่นยนต์แบบ Stamp Robot ทำหุ่นยนต์จากเลโก้ และเขียนโปรแกรมจนสามารถคว้ารางวัลที่ 3 จากการแข่งขันของกลุ่มโรงเรียนรอบเขตกรุงเทพมาได้ และสามารถสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสาขาวิศวกรรมเครื่องกลมหาวิทยาลัยศิลปากรได้ ซึ่งเทอมที่ผ่านมา ถึงจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยแต่เขาก็ทำผลการเรียนได้เกรดเฉลี่ยถึง 2.87 ถือเป็นแบบอย่างของเด็กเก่งและดี

          ในอนาคตเขามีความใฝ่ฝันว่าอยากเป็นวิศวกร เพราะจะได้นำความรู้ที่เรียนมาสร้างประโยชน์ ในการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ และมีแผนจะต่อยอดสร้างธุรกิจส่วนตัวให้ประสบความสำเร็จ ถึงแม้วันนี้แม่จะไม่อยู่แล้ว ไม่มีโอกาสได้เห็นแต่ข้าวโพดเติบโตอย่างงดงาม แต่สำหรับเขาแม่ยังคงอยู่ในใจเสมอ แม่เป็นต้นแบบและแรงผลักดันให้ชีวิตเขาก้าวไปข้างหน้าแม้ว่าจะเจออุปสรรคมากมายก็ตาม เพราะแม่เป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่งไม่ว่าจะเจอปัญหามากน้อยแค่ไหน แม่ไม่เคยทำให้คนรอบข้าง คนในครอบครัวลำบากใจ กังวลใจ ไม่สบายใจไปด้วยเลยสักครั้ง แม่จะยิ้มสู้และพยายามให้ข้าวโพดยิ้มอยู่ตลอดเวลา และหาทางแก้ปัญหาไปให้ได้ คำสอนของแม่ทุกคำเป็นเป้าหลอมให้เขาเป็นนักสู้และไม่ย่อท้อต่อปัญหา จึงอยากจะฝากกำลังใจถึงเพื่อนๆ อีกหลายคนที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับปัญหาว่า

          “เราทุกคนต่างประสบปัญหาชีวิตไม่เท่ากัน บางคนอาจจะเจอปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น หกล้ม ทำเงินหาย หรือบางคนอาจจะเจอปัญหาที่ใหญ่มาก ๆ เช่น บ้านมีหนี้สินหลายล้าน ตอนนี้เงินในครอบครัวไม่มีเลยสักบาท แต่ผมเชื่อเสมอว่าทุกอย่างย่อมมีทางออกของมัน ขอเพียงแค่เราไม่คิดที่จะยอมแพ้ ไม่ว่ายังไงเราก็จะหาทางออกให้มันได้เสมอ ยิ้มสู้กับทุกปัญหาและฝ่าฟันไปให้ได้นะครับ”