นางสาวจิราพร สังข์ทับทิม (แอมป์)

เราทุกคนต่างก็มีปัญหาในชีวิตกันทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นต่อให้ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน
ก็อย่ายอมแพ้ เพราะยังมีคนที่คอยให้กำลังใจ
และพร้อมสู้ไปกับเราเสมอ

นางสาวจิราพร สังข์ทับทิม (แอมป์)
เด็กเก่ง เลือดนักสู้ ผู้ไม่ยอมจำนนต่อความยากจน
นักเรียนทุน SCG Sharing The Dream โดย มูลนิธิเอสซีจี
นักศึกษา คณะศิลปะศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

น้องแอมป์ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ว่าต้องพาตัวเองและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ แม่และน้องต้องสบาย ครอบครัวเราลำบากด้วยกันมามาก เคยกระทั่งกินข้าวผัดที่มีแต่ข้าวเปล่าๆ เพราะไม่มีเงินซื้อเนื้อสัตว์ หรือซื้อแค่ไข่สักฟองมาปรุงเป็นอาหารยังชีพ มันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดและเป็นแรงผลักดันให้แอมป์ตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้ใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาจีนที่แอมป์ถนัดไปทำงานและต่อยอดธุรกิจในอนาคตให้ประสบความสำเร็จ แต่การที่เรียนไปด้วย ทำงาน
ไปด้วยถือเป็นภาระที่หนัก แต่สำหรับแอมป์คิดว่ามันยังเบากว่าภาระที่แม่แบกอยู่ เพราะตั้งแต่ที่จำความได้แม่ทำทุกอย่าง ไม่เคยบ่น ไม่เคยย่อท้อ มีคนเคยบอกให้แอมป์เลิกเรียนตั้งแต่ตอนจบม.3 ให้ออกมาทำงาน แต่แม่ก็ยังกัดฟันสู้ส่งเสียแอมป์และน้องเรียนมาโดยตลอด ทำให้แอมป์เห็นความเข้มแข็งในตัวผู้หญิงคนนี้ ทำให้
มีกำลังใจ มีแรงฮึดสู้ และมีความพยายามที่จะพาชีวิตตัวเองให้ดีกว่าเดิม ให้แม่ได้ภาคภูมิใจจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะประสบความสำเร็จ จึงอยากจะฝากทุกคนที่กำลังสู้ชีวิตอยู่ในขณะนี้ว่า

“เราทุกคนต่างก็มีปัญหากันทั้งนั้น แต่ละคนก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม แค่อย่ายอมแพ้ ก้าวผ่านมันไปให้ได้ ถ้าวันไหน
ที่รู้สึกท้อ ก็ให้ลองมองดูคนรอบๆตัวแล้วจะเห็นว่ายังมีคนที่เรารัก คนที่คอย
สนับสนุนเรา เป็นกำลังใจให้เรา เพราะฉะนั้นต่อให้เจอปัญหาใหญ่แค่ไหนเข้ามา
ในชีวิตก็อย่ายอมแพ้ ทุกคนคอยให้กำลังใจและพร้อมสู้ไปกับเราเสมอ ขอเป็น
กำลังใจให้ค่ะ”

น้องแอมป์ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ว่าต้องพาตัวเองและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ แม่และน้องต้องสบาย ครอบครัวเราลำบากด้วยกันมามาก เคยกระทั่งกินข้าวผัดที่มีแต่ข้าวเปล่าๆ เพราะไม่มีเงินซื้อเนื้อสัตว์ หรือซื้อแค่ไข่สักฟองมาปรุงเป็นอาหารยังชีพ มันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดและเป็นแรงผลักดันให้แอมป์ตั้งใจเรียนเพื่อที่จะได้ใช้ความรู้ ความสามารถทางภาษาจีนที่แอมป์ถนัดไปทำงานและต่อยอดธุรกิจในอนาคตให้ประสบความสำเร็จ แต่การที่เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยถือเป็นภาระที่หนัก แต่สำหรับแอมป์คิดว่ามันยังเบากว่าภาระที่แม่แบกอยู่ เพราะตั้งแต่ที่จำความได้แม่ทำทุกอย่าง ไม่เคยบ่น ไม่เคยย่อท้อ มีคนเคยบอกให้แอมป์เลิกเรียนตั้งแต่ตอนจบม.3 ให้ออกมาทำงาน แต่แม่ก็ยังกัดฟันสู้ส่งเสียแอมป์และน้องเรียนมาโดยตลอด ทำให้แอมป์เห็นความเข้มแข็งในตัวผู้หญิงคนนี้ ทำให้มีกำลังใจ มีแรงฮึดสู้ และมีความพยายามที่จะพาชีวิตตัวเองให้ดีกว่าเดิม ให้แม่ได้ภาคภูมิใจจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะประสบความสำเร็จ จึงอยากจะฝากทุกคนที่กำลังสู้ชีวิตอยู่ในขณะนี้ว่า

“เราทุกคนต่างก็มีปัญหากันทั้งนั้น แต่ละคนก็มีปัญหาเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ตาม แค่อย่ายอมแพ้ ก้าวผ่านมันไปให้ได้ ถ้าวันไหนที่รู้สึกท้อ ก็ให้ลองมองดูคนรอบๆตัวแล้วจะเห็นว่ายังมีคนที่เรารัก คนที่คอยสนับสนุนเรา เป็นกำลังใจให้เรา เพราะฉะนั้นต่อให้เจอปัญหาใหญ่แค่ไหนเข้ามาในชีวิตก็อย่ายอมแพ้ ทุกคนคอยให้กำลังใจและพร้อมสู้ไปกับเราเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ”

น้องแอมป์ เติบโตมาจากครอบครัวฐานะยากจน อาศัยอยู่ในบ้านไม้ชั้นเดียวที่ยังเช่าที่ดินของวัดอยู่ พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่น้องยังเด็กๆ โดยมีแม่เป็นคนทำงานหาเงินส่งเสียแอมป์และน้องชายให้ได้เรียน ตลอดจนเลี้ยงดูทุกคนในบ้านให้ได้อิ่มท้อง แม่ประกอบอาชีพขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน ทุกวันแม่จะตื่นมาเตรียมของขายตั้งแต่ตี 2 เพื่อขายตอนตี 5-8 โมง น้องแอมป์ก็จะตื่นมาทุกเช้าเพื่อช่วยแม่ขายปาท่องโก๋ก่อนไปโรงเรียน ตอนเย็นเลิกเรียนกลับมาก็ช่วยทำงานบ้านอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน แต่ด้วย
รายรับไม่พอกับรายจ่ายน้องแอมป์จึงอยากออกไปช่วยทำงานหาเงิน เพราะมีบ่อยครั้ง
ในชีวิตที่เผชิญกับความยากลำบากไม่มีเงินสักบาทติดตัว แอมป์จึงคิดและตั้งใจว่าต้อง
ทำงาน เก็บเงิน จะได้ไม่ต้องลำบาก และไม่เป็นภาระของแม่อีก ตอนนี้แอมป์ได้ทำงาน
เป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ Harbor Land เมกาบางนา ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทำให้สามารถเก็บเงินไว้ใช้ในการซื้ออุปกรณ์การเรียน ทำรายงาน และช่วยค่าใช้จ่ายในบ้าน
ในช่วงที่แม่ขายของไม่ดี

ปัจจุบันนี้น้องแอมป์กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ผลการเรียนที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ได้เกรดเฉลี่ยถึง 3.50 โดยน้องแอมป์เป็นคนที่รู้จักแบ่งเวลาให้กับการเรียน และการทำงานได้อย่างดี โดยในวันจันทร์ถึงศุกร์ นอกจากจะช่วยเหลือแม่ขายปาท่องโก๋ ทำงานบ้านแล้วก็จะทบทวนบทเรียนและทำการบ้านให้เสร็จภายในวันศุกร์ เพื่อที่จะได้ออกไปทำงานได้อย่างเต็มที่ในวันเสาร์และอาทิตย์อย่างไม่ต้องกังวลใจ

น้องแอมป์ เติบโตมาจากครอบครัวฐานะยากจน อาศัยอยู่ในบ้านไม้ชั้นเดียวที่ยังเช่าที่ดินของวัดอยู่ พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่น้องยังเด็กๆ โดยมีแม่เป็นคนทำงานหาเงินส่งเสียแอมป์และน้องชายให้ได้เรียน ตลอดจนเลี้ยงดูทุกคนในบ้านให้ได้อิ่มท้อง แม่ประกอบอาชีพขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน ทุกวันแม่จะตื่นมาเตรียมของขายตั้งแต่ตี 2 เพื่อขายตอนตี 5-8 โมง น้องแอมป์ก็จะตื่นมาทุกเช้าเพื่อช่วยแม่ขายปาท่องโก๋ก่อนไปโรงเรียน ตอนเย็นเลิกเรียนกลับมาก็ช่วยทำงานบ้านอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน แต่ด้วยรายรับไม่พอกับรายจ่ายน้องแอมป์จึงอยากออกไปช่วยทำงานหาเงิน เพราะมีบ่อยครั้งในชีวิตที่เผชิญกับความยากลำบากไม่มีเงินสักบาทติดตัว แอมป์จึงคิดและตั้งใจว่าต้องทำงาน เก็บเงิน จะได้ไม่ต้องลำบาก และไม่เป็นภาระของแม่อีก ตอนนี้แอมป์ได้ทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ Harbor Land เมกาบางนา ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทำให้สามารถเก็บเงินไว้ใช้ในการซื้ออุปกรณ์การเรียน ทำรายงาน และช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านในช่วงที่แม่ขายของไม่ดี