จินดารัตน์ เปรียญ (ติ้ว)

นักเรียนทุนระยะสั้นเพื่อการมีอาชีพ
โดย มูลนิธิเอสซีจี

เพื่อนชวนก็โอเค

         เห็นพ่อแม่ทำงานหนักทุกวันไม่มีพัก อยู่กลางไร่นาตากแดด เด็กศรีสะเกษอย่าง ‘ติ้ว – จินดารัตน์ เปรียญ’
ก็อยากรีบเรียนให้จบแล้วออกมาทำงานหาเงินช่วยแบ่งเบา เธอติดสปีดความคิดและตัดสินใจทันทีที่รู้ข่าวจากเพื่อนว่า โรงพยาบาลศิริราชเปิดรับสมัครนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล “เพื่อนมาชวน หนูก็โอเคเลยค่ะ พากันไปสมัคร เพราะสาขานี้เรียนจบแล้วก็มีงานทำเลย ใช้คะแนน O-NET แล้วก็เกรดตอน ม.6 ไปสอบสัมภาษณ์ค่ะ” ติ้วเล่าไวเหมือนการตัดสินใจ

 

เกือบเทตั้งแต่เดือนแรก

         ถึงติ้วจะสนใจวิชาการพยาบาลพื้นฐาน และชอบบริการช่วยคนนั้นคนนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพอมาเรียนแล้วจะรู้เรื่องหรือเข้าใจง่าย ๆ ความยากของวิชาที่ต้องเรียน แค่เดือนแรกติ้วก็อยากเท “คือเนื้อหามีเยอะ แต่ต้องเรียนให้จบ
ในปีเดียวก็เลยยากค่ะ สำหรับเราคือยากเกือบทุกวิชาที่เรียนเลยนะ อัดแน่นจัดเต็มมาก ๆ แถมยังต้องเรียนกับครูพยาบาลที่ค่อนข้างดุ แต่ก็เข้าใจครูค่ะ เพราะเขาก็อยากให้เราเข้าใจ เอาไปปฏิบัติได้ถูกต้อง เอาจริงคือถอดใจนะ เดือนแรกก็คิดแล้วว่าจะไปต่อดีไหมนะ แต่ครูหลายคนก็ใจดีและรับฟังเรา ก็เลยมาคิดใหม่ดูว่า ไหน ๆ ก็ตัดสินใจมาทางนี้แล้ว เลยโอเคสู้ต่อ ตั้งใจเรียนเต็มที่ค่ะ” พอเริ่มโฟกัส มีสติ และตั้งใจขึ้นก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่านั้น ติ้วผ่านมาได้แม้จะท้อหรือนอยด์ไปบ้าง พอถามถึงวิชาที่ชอบก็เป็นคำตอบเดียวกับวิชาที่สนใจ นั่นคือการพยาบาลพื้นฐาน เพราะเป็นวิชาที่ให้สกิลเบสิกไว้ใช้ตอนทำงานนั่นเอง

พ่อแม่ภาระหนักไป

         ตั้งใจตั้งแต่แรกว่าอยากช่วยที่บ้านแบ่งเบาภาระ ถึงจะยังไม่ได้ทำงาน แต่พอรู้จากอาจารย์พยาบาลว่ามีทุนของมูลนิธิเอสซีจี ติ้วก็จัดเลยแบบไม่ลังเล เพราะโอกาสนี้ดีงามและตอบโจทย์ “เรามีพี่สาวอายุห่างกัน 3 ปี กำลังเรียนทันตสาธารณสุขค่ะ พ่อแม่ก็ต้องส่งเงินให้เรียนทั้งเราแล้วก็พี่สาวด้วย ภาระหนักนะคะ พอรู้ว่ามีทุนของมูลนิธิเอสซีจีก็คือสมัครเลย มีไปสัมภาษณ์ พอรู้ว่าได้ทุนก็ดีใจมาก เพราะเงินตรงนี้ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ได้เยอะ แฮปปีมากค่ะ”

ใช้อีคิว Lead ให้หนัก

         ช่วงเวลาที่รอคอยมาถึง เรียนหลักสูตรนี้ 1 ปี ช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ยาวนานเหลือเกินสำหรับติ้ว เพราะตั้งใจเรียนหนักเป็นพิเศษ พอได้ทำงานก็มีเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องปรับตัว เวลางานก็ไม่ค่อยแน่นอน “งานผู้ช่วยพยาบาลจริง ๆ ก็หนักนะคะ ยังดีที่เราเน้นเข้าเวรแค่ตอนเช้า เพราะทำอยู่แผนก OPD แต่บางวันคือดึกเลย ลงเวร 3 – 4 ทุ่ม แต่โดยรวมยังพอบาลานซ์เวลาได้อยู่ค่ะ” แต่แชลเลนจ์ของงานในโรงพยาบาลไม่ได้จบแค่นั้น เพราะนี่ไม่ใช่งานรูทีนที่ทำซ้ำ ๆ เดิม ๆ อีคิวที่ดีเป็นสกิลไอเทมที่ต้องมาเลยล่ะสำหรับอาชีพนี้ “คือที่เรียนมาก็ได้ใช้อยู่แล้ว ระบบการทำงานก็เรียนรู้ได้ในแต่ละวันน่ะค่ะ แล้วเราจะทำได้ดีขึ้น แต่กับคนไข้เราคาดเดาไม่ได้นะว่าจะเจอแบบไหน รับมือยังไง อันนี้ต้องฝึกกันใหม่ แต่ละวันจะไม่เหมือนกัน บางคนก็ดีมาก ๆ บางคนก็เหมือนหงุดหงิดจากที่ไหนมา และความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เงื่อนไขก็ไม่เหมือนด้วย เราต้องดูแลและรับมือให้ได้ พยายามพูดกับคนไข้แบบอ่อนน้อมสุด ๆ ต้องใจเย็นและปฏิบัติต่อคนไข้ด้วยความเมตตาค่ะ” อายุยังน้อย เวลาพอมี แต่ติ้วก็วางแผนสเต็ปต่อไปแล้วว่าจะเก็บเงินและหาจังหวะเรียนต่อพยาบาลศาสตร์ ตอนนี้ขอเก็บประสบการณ์ อนาคตก็ไม่แน่เหมือนกัน อาจเปลี่ยนสายงานก็ได้ อันนี้ก็เอาใจช่วยต่อไป