ความงดงามของธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยทะเล ภูเขา และต้นไม้เขียวขจีในจังหวัดตรัง คือแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์งานศิลปะของศิลปินตัวน้อย วินนี่-เด็กหญิงเคสิยาห์ ชุมพวง
ผู้มีจินตนาการไร้กรอบที่มีความสุขกับการละเลงสีอะคริลิคออกมาเป็นภาพวาดแนวนามธรรม (abstract art) จากความรักในงานศิลปะของเด็กน้อยนำไปสู่การต่อยอดบนผืนผ้าพิมพ์ลายจนเกิดเป็นแบรนด์ ‘Keziah (เคสิยาห์)’ แบรนด์ที่สร้างโดยเด็กหญิงวัยเพียงเจ็ดขวบ และยังเป็นผู้ประกอบการที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์งานแสดงสินค้า Style Bangkok อะไรคือแรงผลักดันให้การสร้างสรรค์งานศิลปะของเด็กคนหนึ่งกลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักในแวดวงแฟชั่น
ความงดงามของธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยทะเล ภูเขา และต้นไม้เขียวขจีในจังหวัดตรัง คือแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์งานศิลปะของศิลปินตัวน้อย วินนี่-เด็กหญิงเคสิยาห์ ชุมพวงผู้มีจินตนาการไร้กรอบที่มีความสุขกับการละเลงสีอะคริลิคออกมาเป็นภาพวาดแนวนามธรรม (abstract art) จากความรักในงานศิลปะของเด็กน้อยนำไปสู่การต่อยอดบนผืนผ้าพิมพ์ลายจนเกิดเป็นแบรนด์ ‘Keziah (เคสิยาห์)’ แบรนด์ที่สร้างโดยเด็กหญิงวัยเพียงเจ็ดขวบ และยังเป็นผู้ประกอบการที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์งานแสดงสินค้า Style Bangkok อะไรคือแรงผลักดันให้การสร้างสรรค์งานศิลปะของเด็กคนหนึ่งกลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักในแวดวงแฟชั่น
ฝันใหญ่มุ่งมั่นไปสู่ระดับโลก
“หนูอยากเป็นซุปเปอร์โมเดลค่ะ” วินนี่บอกเล่าถึงความฝันวัยเด็กของเธอ คุณแม่ของวินนี่บอกว่า
ลูกเล่าความฝันนี้ให้ฟังตั้งแต่ยังพูดไม่ค่อยชัด แม้ว่าโตขึ้นแล้วก็ไม่เปลี่ยนความฝัน ปัจจุบันวินนี่สาวน้อย
วัยเก้าขวบเธอชอบศิลปะและแฟชั่นเลยอยากไปเรียนด้านการออกแบบแฟชั่นที่ประเทศฝรั่งเศส และตั้งใจ
จะพาแบรนด์เสื้อผ้าของเธอไปที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อทำให้ทั่วโลกรู้จักแบรนด์ของเธออีกด้วย
“วินนี่อยากไปเรียนแฟชั่นที่ปารีส ฝรั่งเศสค่ะ เพราะว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านแฟชั่น พอหนูเรียนจบก็จะทำงานที่นั่นหนูอยากเป็นนางแบบใส่ชุดของแบรนด์ตัวเองที่เอาไปขายที่ฝรั่งเศส แล้วก็จะขายทั่วโลกด้วยค่ะ”มีคนถามวินนี่ว่ามีใครเป็น ศิลปินในดวงใจ เธอตอบด้วยเสียงน่ารักสดใสพร้อมเสียงหัวเราะว่า“อ๋อวินนี่ค่ะ”
“หนูอยากเป็นซุปเปอร์โมเดลค่ะ” วินนี่บอกเล่าถึงความฝันวัยเด็กของเธอ คุณแม่ของวินนี่บอกว่าลูกเล่าความฝันนี้ให้ฟังตั้งแต่ยังพูดไม่ค่อยชัด แม้ว่าโตขึ้นแล้วก็ไม่เปลี่ยนความฝัน ปัจจุบันวินนี่สาวน้อยวัยเก้าขวบเธอชอบศิลปะและแฟชั่นเลยอยากไปเรียนด้านการออกแบบแฟชั่นที่ประเทศฝรั่งเศส และตั้งใจจะพาแบรนด์เสื้อผ้าของเธอไปที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อทำให้ทั่วโลกรู้จักแบรนด์ของเธออีกด้วย
“วินนี่อยากไปเรียนแฟชั่นที่ปารีส ฝรั่งเศสค่ะ เพราะว่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านแฟชั่น พอหนูเรียนจบก็จะทำงานที่นั่นหนูอยากเป็นนางแบบใส่ชุดของแบรนด์ตัวเองที่เอาไปขายที่ฝรั่งเศส แล้วก็จะขายทั่วโลกด้วยค่ะ”มีคนถามวินนี่ว่ามีใครเป็น ศิลปินในดวงใจ เธอตอบด้วยเสียงน่ารักสดใสพร้อมเสียงหัวเราะว่า“อ๋อวินนี่ค่ะ”
ความรัก ความอบอุ่น คือแรงบันดาลใจให้ค้นพบตัวตน
วินนี่เริ่มวาดภาพตอนอายุห้าขวบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากฮีโร่พี่ชายของเธอเอง ทุกครั้งที่ฮีโร่ถูกเชิญให้ไปแสดงผลงานตามที่ต่าง ๆ จะมีผู้คนชื่นชอบภาพวาดของเขา วินนี่เห็นแบบนั้นแล้วมีความรู้สึกอบอุ่นหัวใจทำให้เธออยากวาดภาพบ้าง ช่วงแรกวินนี่ลองวาดภาพสีน้ำตามฮีโร่แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยชอบ กระทั่งวันที่วินนี่ตามฮีโร่ไปที่งานประกวดภาพวาดที่หอศิลป์อันดามัน จังหวัดกระบี่ แล้ววินนี่ได้สัมผัสกับสีอะคริลิคครั้งแรก วันนั้นเป็นวันที่เธอได้ค้นพบตัวตนและแนวทางศิลปะของตัวเอง วินนี่นั่งวาดภาพอยู่ข้าง ๆ ฮีโร่โดยไม่รู้เลยว่าภาพที่เธอนั่งวาดเล่น ๆ จะได้รับรางวัล ภาพวาดของฮีโร่ได้เหรียญทอง ส่วนภาพวาดของวินนี่ที่ชื่อว่า ‘สวนเอเดน’ ได้เหรียญเงิน วินนี่ดีใจและมีความสุขมากที่มีคนชื่นชมงานศิลปะของเธอ ทำให้เธอมีความมั่นใจสร้างสรรค์งานศิลปะในแบบของตัวเอง
“เมื่อก่อนวินนี่ยังไม่ได้วาดรูปค่ะ แต่พอเห็นพี่ฮีโร่ไปแสดงผลงานแล้วมีคนชอบรู้สึกว่ามันอบอุ่น
ดี หนูก็เลยอยากวาดด้วย ตอนแรกหนูพยายามจะวาดแบบพี่ฮีโร่ อยากวาดให้เป็นต้นไม้แต่มันก็ไม่
เป็นค่ะ (หัวเราะ) หนูก็เลยใช้จินตนาการเอาค่ะ คิดว่าสีนี้มาแมตช์กับสีนี้แล้วมันจะสวยไหม วาดไปเรื่อยๆ
ก็มีความสุขแล้วก็สนุกดีค่ะ”วินนี่เล่า
วินนี่เริ่มวาดภาพตอนอายุห้าขวบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากฮีโร่พี่ชายของเธอเอง ทุกครั้งที่ฮีโร่ถูกเชิญให้ไปแสดงผลงานตามที่ต่าง ๆ จะมีผู้คนชื่นชอบภาพวาดของเขา วินนี่เห็นแบบนั้นแล้วมีความรู้สึกอบอุ่นหัวใจทำให้เธออยากวาดภาพบ้าง ช่วงแรกวินนี่ลองวาดภาพสีน้ำตามฮีโร่แต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยชอบ กระทั่งวันที่วินนี่ตามฮีโร่ไปที่งานประกวดภาพวาดที่หอศิลป์อันดามัน จังหวัดกระบี่ แล้ววินนี่ได้สัมผัสกับสีอะคริลิคครั้งแรก วันนั้นเป็นวันที่เธอได้ค้นพบตัวตนและแนวทางศิลปะของตัวเอง วินนี่นั่งวาดภาพอยู่ข้าง ๆ ฮีโร่โดยไม่รู้เลยว่าภาพที่เธอนั่งวาดเล่น ๆ จะได้รับรางวัล ภาพวาดของฮีโร่ได้เหรียญทอง ส่วนภาพวาดของวินนี่ที่ชื่อว่า ‘สวนเอเดน’ ได้เหรียญเงิน วินนี่ดีใจและมีความสุขมากที่มีคนชื่นชมงานศิลปะของเธอ ทำให้เธอมีความมั่นใจสร้างสรรค์งานศิลปะในแบบของตัวเอง
“เมื่อก่อนวินนี่ยังไม่ได้วาดรูปค่ะ แต่พอเห็นพี่ฮีโร่ไปแสดงผลงานแล้วมีคนชอบรู้สึกว่ามันอบอุ่นดี หนูก็เลยอยากวาดด้วย ตอนแรกหนูพยายามจะวาดแบบพี่ฮีโร่ อยากวาดให้เป็นต้นไม้แต่มันก็ไม่
เป็นค่ะ (หัวเราะ) หนูก็เลยใช้จินตนาการเอาค่ะ คิดว่าสีนี้มาแมตช์กับสีนี้แล้วมันจะสวยไหม วาดไปเรื่อยๆก็มีความสุขแล้วก็สนุกดีค่ะ”วินนี่เล่า
ความรัก ความอบอุ่น คือแรงบันดาลใจให้ค้นพบตัวตน
วินนี่เป็นศิลปินตัวจริงเธอชอบศิลปะและชอบแฟชั่นด้วย วันหนึ่งวินนี่วาดภาพ ‘ป่าหิมะ’ พอวาดเสร็จเธอรู้สึกว่าอยากใส่กระโปรงลายนี้เธอหันไปบอกความต้องการกับแม่ ด้วยความรัก
และต้องการสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ แม่จึงหาข้อมูลการพิมพ์ลายผ้า หาโรงงานที่รับผลิต ได้ชื่อโรงงานมาติดต่อไปก็ถูกปฎิเสธเพราะเห็นว่าเป็นงานของเด็ก แม้จะถูกปฎิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า
วินนี่และแม่ก็ไม่ท้อเดินหน้าติดต่อโรงงานต่อไป กระทั่งได้พบกับเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งที่มองเห็นคุณค่างานศิลปะของเด็ก เขาประทับใจงานของวินนี่มากจึงตกลงรับพิมพ์ลายให้จนได้ผ้าสำหรับ
ตัดชุดกระโปรง วินนี่ใส่กระโปรงลายฝีมือตัวเองด้วยความภูมิใจ เมื่อมีผู้คนชื่นชมและอยากได้ลายภาพวาดแบบกระโปรงของเธอ ก็ทำให้วินนี่รู้สึกมีพลังมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและอยากทำ
ผ้าพิมพ์ลายที่เกิดจากงานศิลปะของเธอออกมาเพิ่ม
จุดเริ่มต้นจากผืนผ้าพิมพ์ลายศิลปะไม่กี่หลาเป็นกระโปรงต่อยอดสู่ธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ ‘Keziah (เคสิยาห์)’ ซึ่งมาจากชื่อจริงของวินนี่ เป็นแบรนด์ที่เกิดจากจินตนาการและความสุขของเธอ
แบรนด์เคสิยาห์มีโอกาสไปแสดงงานที่งาน Style Bangkok ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะนอกจากความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครของสินค้าแล้ว เจ้าของแบรนด์ยังเป็น
ผู้ประกอบการณ์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์งานแสดงสินค้า ด้วยความที่วินนี่มีความชอบในเรื่องแฟชั่นเป็นทุนอยู่แล้ว วินนี่ในวัยเก้าขวบก็พัฒนาความสามารถมาถึงจุดที่มีไอเดียออกแบบ
เสื้อผ้าเองได้ วินนี่ออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชันแรกซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดในจินตนาการอันไร้ขอบเขตของเธอ และมีแผนจะจัดแฟชั่นโชว์ที่มีชื่อว่า ‘Keziah Winter Collection 2022’
แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องยกเลิกการจัดออกไป แม้ว่าแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นแรกยังไม่เกิดขึ้น แต่วินนี่ก็ไม่หยุดสร้างสรรค์งานศิลปะลงผืนผ้าพิมพ์ออกลายใหม่ๆให้กับแบรนด์
“ตอนแรกไม่ได้นึกว่าอยากทำแบรนด์ค่ะ แค่อยากได้กระโปรงที่เป็นลายภาพวาดของวินนี่เอง พอได้กระโปรงตัวแรกมาใส่แล้วมีคนชมเยอะก็อยากได้อีกเรื่อย ๆ พอมีเยอะขึ้นคนอยากได้
ก็เลยทำเป็นแบรนด์วินนี่กับพี่ฮีโร่ก็เป็นหุ้นส่วนกันค่ะ”วินนี่เล่า
วินนี่เป็นศิลปินตัวจริงเธอชอบศิลปะและชอบแฟชั่นด้วย วันหนึ่งวินนี่วาดภาพ ‘ป่าหิมะ’ พอวาดเสร็จเธอรู้สึกว่าอยากใส่กระโปรงลายนี้เธอหันไปบอกความต้องการกับแม่ ด้วยความรักและต้องการสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ แม่จึงหาข้อมูลการพิมพ์ลายผ้า หาโรงงานที่รับผลิต ได้ชื่อโรงงานมาติดต่อไปก็ถูกปฎิเสธเพราะเห็นว่าเป็นงานของเด็ก แม้จะถูกปฎิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าวินนี่และแม่ก็ไม่ท้อเดินหน้าติดต่อโรงงานต่อไป กระทั่งได้พบกับเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งที่มองเห็นคุณค่างานศิลปะของเด็ก เขาประทับใจงานของวินนี่มากจึงตกลงรับพิมพ์ลายให้จนได้ผ้าสำหรับตัดชุดกระโปรง วินนี่ใส่กระโปรงลายฝีมือตัวเองด้วยความภูมิใจ เมื่อมีผู้คนชื่นชมและอยากได้ลายภาพวาดแบบกระโปรงของเธอ ก็ทำให้วินนี่รู้สึกมีพลังมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและอยากทำผ้าพิมพ์ลายที่เกิดจากงานศิลปะของเธอออกมาเพิ่ม
จุดเริ่มต้นจากผืนผ้าพิมพ์ลายศิลปะไม่กี่หลาเป็นกระโปรงต่อยอดสู่ธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ ‘Keziah (เคสิยาห์)’ ซึ่งมาจากชื่อจริงของวินนี่ เป็นแบรนด์ที่เกิดจากจินตนาการและความสุขของเธอแบรนด์เคสิยาห์มีโอกาสไปแสดงงานที่งาน Style Bangkok ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะนอกจากความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครของสินค้าแล้ว เจ้าของแบรนด์ยังเป็น
ผู้ประกอบการณ์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์งานแสดงสินค้า ด้วยความที่วินนี่มีความชอบในเรื่องแฟชั่นเป็นทุนอยู่แล้ว วินนี่ในวัยเก้าขวบก็พัฒนาความสามารถมาถึงจุดที่มีไอเดียออกแบบเสื้อผ้าเองได้ วินนี่ออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชันแรกซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดในจินตนาการอันไร้ขอบเขตของเธอ และมีแผนจะจัดแฟชั่นโชว์ที่มีชื่อว่า ‘Keziah Winter Collection 2022’ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องยกเลิกการจัดออกไป แม้ว่าแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นแรกยังไม่เกิดขึ้น แต่วินนี่ก็ไม่หยุดสร้างสรรค์งานศิลปะลงผืนผ้าพิมพ์ออกลายใหม่ๆให้กับแบรนด์
“ตอนแรกไม่ได้นึกว่าอยากทำแบรนด์ค่ะ แค่อยากได้กระโปรงที่เป็นลายภาพวาดของวินนี่เอง พอได้กระโปรงตัวแรกมาใส่แล้วมีคนชมเยอะก็อยากได้อีกเรื่อย ๆ พอมีเยอะขึ้นคนอยากได้ก็เลยทำเป็นแบรนด์วินนี่กับพี่ฮีโร่ก็เป็นหุ้นส่วนกันค่ะ”วินนี่เล่า
จากงานศิลปะที่รัก สู่ผืนผ้าพิมพ์ลายแฟชั่นแบรนด์ ‘เคสิยาห์’
วินนี่เป็นศิลปินตัวจริงเธอชอบศิลปะและชอบแฟชั่นด้วย วันหนึ่งวินนี่วาดภาพ ‘ป่าหิมะ’ พอวาดเสร็จเธอรู้สึกว่าอยากใส่กระโปรงลายนี้เธอหันไปบอกความต้องการกับแม่ ด้วยความรักและต้องการสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ แม่จึงหาข้อมูลการพิมพ์ลายผ้า หาโรงงานที่รับผลิต ได้ชื่อโรงงานมาติดต่อไปก็ถูกปฎิเสธเพราะเห็นว่าเป็นงานของเด็ก แม้จะถูกปฎิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าวินนี่และแม่
ก็ไม่ท้อเดินหน้าติดต่อโรงงานต่อไป กระทั่งได้พบกับเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งที่มองเห็นคุณค่างานศิลปะของเด็ก เขาประทับใจงานของวินนี่มากจึงตกลงรับพิมพ์ลายให้จนได้ผ้าสำหรับตัดชุดกระโปรง วินนี่ใส่กระโปรงลายฝีมือตัวเองด้วยความภูมิใจ เมื่อมีผู้คนชื่นชมและอยากได้ลายภาพวาดแบบกระโปรงของเธอ ก็ทำให้วินนี่รู้สึกมีพลังมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและอยากทำผ้าพิมพ์ลาย
ที่เกิดจากงานศิลปะของเธอออกมาเพิ่ม
จุดเริ่มต้นจากผืนผ้าพิมพ์ลายศิลปะไม่กี่หลาเป็นกระโปรงต่อยอดสู่ธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ ‘Keziah (เคสิยาห์)’ ซึ่งมาจากชื่อจริงของวินนี่ เป็นแบรนด์ที่เกิดจากจินตนาการและความสุขของเธอ แบรนด์เคสิยาห์มีโอกาสไปแสดงงานที่งาน Style Bangkok ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะนอกจากความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครของสินค้าแล้ว เจ้าของแบรนด์ยังเป็น
ผู้ประกอบการณ์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์งานแสดงสินค้า
ด้วยความที่วินนี่มีความชอบในเรื่องแฟชั่นเป็นทุนอยู่แล้ว วินนี่ในวัยเก้าขวบก็พัฒนาความสามารถมาถึงจุดที่มีไอเดียออกแบบเสื้อผ้าเองได้ วินนี่ออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชันแรกซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดในจินตนาการอันไร้ขอบเขต
ของเธอ และมีแผนจะจัดแฟชั่นโชว์ที่มีชื่อว่า‘Keziah Winter Collection 2022’ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องยกเลิกการจัดออกไป แม้ว่าแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นแรกยังไม่เกิดขึ้น แต่วินนี่ก็ไม่หยุดสร้างสรรค์งานศิลปะลงผืนผ้าพิมพ์ออกลายใหม่ๆให้กับแบรนด์
วินนี่เป็นศิลปินตัวจริงเธอชอบศิลปะและชอบแฟชั่นด้วย วันหนึ่งวินนี่วาดภาพ ‘ป่าหิมะ’ พอวาดเสร็จเธอรู้สึกว่าอยากใส่กระโปรงลายนี้เธอหันไปบอกความต้องการกับแม่ ด้วยความรักและต้องการสนับสนุนลูกอย่างเต็มที่ แม่จึงหาข้อมูลการพิมพ์ลายผ้า หาโรงงานที่รับผลิต ได้ชื่อโรงงานมาติดต่อไปก็ถูกปฎิเสธเพราะเห็นว่าเป็นงานของเด็ก แม้จะถูกปฎิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าวินนี่และแม่ก็ไม่ท้อเดินหน้าติดต่อโรงงานต่อไป กระทั่งได้พบกับเจ้าของโรงงานแห่งหนึ่งที่มองเห็นคุณค่างานศิลปะของเด็ก เขาประทับใจงานของวินนี่มากจึงตกลงรับพิมพ์ลายให้จนได้ผ้าสำหรับตัดชุดกระโปรง วินนี่ใส่กระโปรงลายฝีมือตัวเองด้วยความภูมิใจ เมื่อมีผู้คนชื่นชมและอยากได้ลายภาพวาดแบบกระโปรงของเธอ ก็ทำให้วินนี่รู้สึกมีพลังมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นและอยากทำผ้าพิมพ์ลายที่เกิดจากงานศิลปะของเธอออกมาเพิ่ม
จุดเริ่มต้นจากผืนผ้าพิมพ์ลายศิลปะไม่กี่หลาเป็นกระโปรงต่อยอดสู่ธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ ‘Keziah (เคสิยาห์)’ ซึ่งมาจากชื่อจริงของวินนี่ เป็นแบรนด์ที่เกิดจากจินตนาการและความสุขของเธอ แบรนด์เคสิยาห์มีโอกาสไปแสดงงานที่งาน Style Bangkok ทำให้แบรนด์มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะนอกจากความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครของสินค้าแล้ว เจ้าของแบรนด์ยังเป็นผู้ประกอบการณ์ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์งานแสดงสินค้า
ด้วยความที่วินนี่มีความชอบในเรื่องแฟชั่นเป็นทุนอยู่แล้ว วินนี่ในวัยเก้าขวบก็พัฒนาความสามารถมาถึงจุดที่มีไอเดียออกแบบเสื้อผ้าเองได้ วินนี่ออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชันแรกซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดในจินตนาการอันไร้ขอบเขตของเธอ และมีแผนจะจัดแฟชั่นโชว์ที่มีชื่อว่า‘Keziah Winter Collection 2022’ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องยกเลิกการจัดออกไป แม้ว่าแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นแรกยังไม่เกิดขึ้น แต่วินนี่ก็ไม่หยุดสร้างสรรค์งานศิลปะลงผืนผ้าพิมพ์ออกลายใหม่ๆให้กับแบรนด์
บ่มเพาะด้วยความรักเพื่อให้เติบโตอย่างงดงาม
พลังของความรักสามารถนำพาทุกอย่างไปยังที่ต่าง ๆ การสนับสนุนของพ่อแม่ก็เปรียบเสมือนลมใต้ปีกให้ลูก ๆ บินได้อย่างมั่นใจ วินนี่เติบโตมาด้วยความรักและการสนับสนุนจากพ่อแม่ที่เป็นนักกฎหมาย พ่อแม่มีวิธีเลี้ยงลูกแบบให้อิสระมีพื้นที่ให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึก รับฟังกันและกัน ลูกทั้งสองคนมีความฝันว่าอยากไปถึงระดับโลกและมีความเชื่อที่แรงกล้าว่าตัวเอง
จะไปได้ พ่อแม่ก็ให้เกียรติความฝันของลูกให้การสนับสนุนและให้ความรักความอบอุ่น ซึ่งมีส่วนทำให้ลูกมีความมั่นใจและมีความสุขกับสร้างสรรค์งานศิลปะวาดภาพตามจินตนาการและแนวทางของตัวเอง
“งานศิลปะของลูก ๆ มาได้ถึงขั้นนี้ คิดว่าเป็นเพราะปาป๊ามาม๊าไม่มีความรู้ ไม่สามารถวิจารณ์ได้ว่าอันไหนสวยไม่สวย ได้แต่บอกว่าสวยทุกรูปลูกวาดมาก็เอามาใส่กรอบ เลยทำให้พวกเขามีความรู้สึกมั่นใจกล้าทำงานศิลปะออกมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องขนาดนี้หรอกค่ะ เราแค่อยากสนับสนุนสิ่งที่ลูกอยากทำ มีคนบอกว่าพวกคุณลงทุนขนาดนี้แล้ว
ถ้าวันหนึ่งพวกเขาเลิกทำคุณจะเสียหายมากนะ เราบอกเขาไปว่ามันคือกำไรแล้วล่ะตอนนี้ เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ณ ตอนนี้
ให้เขาทำเถอะให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำไป ที่สำคัญปาป๊ามาม๊าก็มีความสุขด้วย”คุณแม่เล่า
คุณพ่อและคุณแม่เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อสนับสนุนให้ลูกได้ไปไกลกว่านี้ ทั้งเรื่องภาษาแต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ
การปลูกฝังรากเง้าความเป็นตัวตนให้กับลูกทั้งสองคน ให้ซึมซับอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุด ให้พวกเขาศึกษาตัวตนจากธรรมชาติ
ที่มองออกไปไม่ว่าจะเป็น ท้องฟ้า สายลม แสงแดด ต้นไม้ สรีระของต้นไม้กิ่งก้าน โดยพ่อแม่จะปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ในใจของพวกเขา
ให้มั่นคงก่อน แล้วถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้อนาคตที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เชื่อว่าลูกทั้งสองคนสามารถเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน
“สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือปลูกฝังความเป็นธรรมชาติลงไปในใจพวกเขา ปลูกฝังความเป็นรากเง้า พวกเขาจะได้รู้ว่ามาจากตรงนี้นะ
ให้มีรากชีวิตไม่ว่าเขาจะไปเติบโตที่ไหนก็จะจำได้ เขาอาจจะไปฝรั่งเศสในอีก 3 ปี ข้างหน้า ไปเจออะไรใหม่ๆ เยอะแยะที่เราตามไม่ทัน
แต่เราได้ให้แนวคิดการดำเนินชีวิตได้ปลูกฝังรากชีวิตให้เขาไปแล้วก็เชื่อว่าเมล็ดพันธุ์จะเติบโตขึ้นมาเป็นต้นสวยงามได้”คุณแม่เล่า
ปัจจุบันแบรนด์ เคสิยาห์ นอกจากมีผ้าม้วนพิมพ์ลายแล้วยังแตกลายสินค้ามี เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เนกไท โดยทั้งหมดเป็นผลงานการออกแบบของวินนี่ เคสิยาห์ เป็นแบรนด์ของเด็กวัยไม่ถึงสิบขวบที่ประสบความสำเร็จอย่างมากที่สร้างรายได้
เจ็ดหลักต่อเดือน การหาตัวเองให้เจอ ก็จะทำให้เราเลือกที่จะเรียนรู้และอยู่รอดอย่างมีความสุขได้ ถือเป็นตัวอย่างของวัยรุ่นต้องรอดของเด็กยุคนี้
พลังของความรักสามารถนำพาทุกอย่างไปยังที่ต่าง ๆ การสนับสนุนของพ่อแม่ก็เปรียบเสมือนลมใต้ปีกให้ลูก ๆ บินได้อย่างมั่นใจ วินนี่เติบโตมาด้วยความรักและการสนับสนุนจากพ่อแม่ที่เป็นนักกฎหมาย พ่อแม่มีวิธีเลี้ยงลูกแบบให้อิสระมีพื้นที่ให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึก รับฟังกันและกัน ลูกทั้งสองคนมีความฝันว่าอยากไปถึงระดับโลกและมีความเชื่อที่แรงกล้าว่าตัวเองจะไปได้ พ่อแม่ก็ให้เกียรติความฝันของลูกให้การสนับสนุนและให้ความรักความอบอุ่น ซึ่งมีส่วนทำให้ลูกมีความมั่นใจและมีความสุขกับสร้างสรรค์งานศิลปะวาดภาพตามจินตนาการและแนวทางของตัวเอง
“งานศิลปะของลูก ๆ มาได้ถึงขั้นนี้ คิดว่าเป็นเพราะปาป๊ามาม๊าไม่มีความรู้ ไม่สามารถวิจารณ์ได้ว่าอันไหนสวยไม่สวย ได้แต่บอกว่าสวยทุกรูปลูกวาดมาก็เอามาใส่กรอบ เลยทำให้พวกเขามีความรู้สึกมั่นใจกล้าทำงานศิลปะออกมาได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องขนาดนี้หรอกค่ะ เราแค่อยากสนับสนุนสิ่งที่ลูกอยากทำ มีคนบอกว่าพวกคุณลงทุนขนาดนี้แล้วถ้าวันหนึ่งพวกเขาเลิกทำคุณจะเสียหายมากนะ เราบอกเขาไปว่ามันคือกำไรแล้วล่ะตอนนี้ เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ณ ตอนนี้ให้เขาทำเถอะให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำไป ที่สำคัญปาป๊ามาม๊าก็มีความสุขด้วย”คุณแม่เล่า
คุณพ่อและคุณแม่เตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อสนับสนุนให้ลูกได้ไปไกลกว่านี้ ทั้งเรื่องภาษาแต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการปลูกฝังรากเง้าความเป็นตัวตนให้กับลูกทั้งสองคน ให้ซึมซับอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุด ให้พวกเขาศึกษาตัวตนจากธรรมชาติที่มองออกไปไม่ว่าจะเป็น ท้องฟ้า สายลม แสงแดด ต้นไม้ สรีระของต้นไม้กิ่งก้าน โดยพ่อแม่จะปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ในใจของพวกเขาให้มั่นคงก่อน แล้วถึงเวลาที่ต้องเรียนรู้อนาคตที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เชื่อว่าลูกทั้งสองคนสามารถเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน“สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือปลูกฝังความเป็นธรรมชาติลงไปในใจพวกเขา ปลูกฝังความเป็นรากเง้า พวกเขาจะได้รู้ว่ามาจากตรงนี้นะให้มีรากชีวิตไม่ว่าเขาจะไปเติบโตที่ไหนก็จะจำได้ เขาอาจจะไปฝรั่งเศสในอีก 3 ปี ข้างหน้า ไปเจออะไรใหม่ๆ เยอะแยะที่เราตามไม่ทันแต่เราได้ให้แนวคิดการดำเนินชีวิตได้ปลูกฝังรากชีวิตให้เขาไปแล้วก็เชื่อว่าเมล็ดพันธุ์จะเติบโตขึ้นมาเป็นต้นสวยงามได้”คุณแม่เล่า
ปัจจุบันแบรนด์ เคสิยาห์ นอกจากมีผ้าม้วนพิมพ์ลายแล้วยังแตกลายสินค้ามี เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เนกไท โดยทั้งหมดเป็นผลงานการออกแบบของวินนี่ เคสิยาห์ เป็นแบรนด์ของเด็กวัยไม่ถึงสิบขวบที่ประสบความสำเร็จอย่างมากที่สร้างรายได้เจ็ดหลักต่อเดือน การหาตัวเองให้เจอ ก็จะทำให้เราเลือกที่จะเรียนรู้และอยู่รอดอย่างมีความสุขได้ ถือเป็นตัวอย่างของวัยรุ่นต้องรอดของเด็กยุคนี้