ผมเชื่อว่าทุกปัญหาที่เข้ามาในชีวิต
ไม่ว่าช่วงเวลาใดก็ตาม
ระหว่างทางนั้นย่อมมีสิ่งที่ทำให้เรา
ได้เรียนรู้อยู่เสมอ

นายศรราม เบียงเล่ (ศร)
หนุ่มอาข่า เลือดนักสู้ เปี่ยมล้นจิตวิญญาณการเป็นครู
นักเรียนทุน SCG Sharing The Dream โดย มูลนิธิเอสซีจี
นักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

          น้องศรเป็นกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ห่างไกลความเจริญในจังหวัดเชียงใหม่ รายได้หลักของครอบครัวมาจากพ่อและแม่ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมซึ่งรายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับผลผลิตที่ได้ในแต่ละปี ซึ่งบางปีผลผลิตออกมาไม่ดีก็ขาดทุนทำให้รายได้ไม่พอเพียงต่อการเลี้ยงปากท้อง
ถึง 7 ชีวิต ศรช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวด้วยการทำสวนในช่วงวันหยุด และมีรายได้พิเศษจากการรับสอนหนังสือจากเด็ก ๆ ในชุมชน ซึ่งเขาเก็บค่าสอนในราคาถูกหรือบางครั้งก็ไม่เก็บเลย เพราะเขาอยากส่งต่อความรู้ที่มีสู่น้อง ๆ และบ่มเพาะให้เด็กๆ ในชุมชมได้มีความฝันของตนเอง เหมือนกับเขาที่มีความฝันอันแรงกล้าที่อยากจะเป็นครูจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ที่ไม่ได้มีต้นทุนชีวิตที่ดีกล้าที่จะมีความฝัน

          น้องศรเป็นเด็กเรียนดี กิจกรรมเด่นในสมัยเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาด้วยความเป็นผู้นำอันโดดเด่นทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และได้รับเลือกเป็นประธานสี เป็นประธานนักเรียน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีจนทำให้ศรได้รับรางวัลนักเรียนต้นแบบคุณธรรมดีเด่น 2 ปีซ้อน ได้รับรางวัลคนดีศรีเชียงใหม่ และยังได้รับรางวัลเยาวชนคนสร้างชาติ ประจำปี 2564 ที่จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อีกด้วยซึ่งยังความภาคภูมิใจให้กับน้องศรและครอบครัวเป็นอย่างมาก ปัจจุบันน้องศรกำลังศึกษาอยู่ ชั้นปีที่ 1 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในภาคเรียนที่ผ่านมาเขามีผลการเรียนที่ดี
ได้เกรดเฉลี่ย 3.85 น้องศรเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จว่า สิ่งสำคัญคือการวางแผน
ในการจัดสรรเวลา ช่วงเวลาเรียนก็คือเรียนตามปกติ เวลาหลังจากเรียน คือ เวลาส่วนตัวและเวลาที่เขาต้องไปช่วยงานครอบครัว ส่วนภาระงานที่ถูกมอบหมายจากอาจารย์ ศรมักจะทำตอนดึกๆ ส่วนการรับติวนั้นก็เป็นช่วงกลางคืนและช่วงวันหยุดเท่านั้น

          ด้วยต้นทุนชีวิตของครอบครัวที่ไม่ได้มีเหมือนคนอื่นทำให้ศรต้องเผชิญ
กับความยากลำบากมาตั้งแต่เกิด แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อเพราะมีพ่อกับแม่ป็นคนต้นแบบ
ในการสู้ชีวิต ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ชีวิตประสบปัญหาเผชิญหน้ากับความล้มเหลว
มาหลายครั้งแต่ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่ครอบครัวเขาจะคิดถอย จึงเป็นแรงผลักดัน
และหล่อหลอมให้ศรมีเลือดนักสู้อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม เขาไม่เคยคิดยอมแพ้
เขามีความหวังและความต้องการที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตครอบครัวให้ดีขึ้นกว่านี้ ศรจึงตั้งใจเรียนและแสวงหาโอกาส เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงการ
ทำตามฝันที่อยากจะเป็นครูที่ดี ครูที่เป็นครูมืออาชีพ ครูที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและมอบอนาคตที่สดใสให้กับเด็ก ๆ แม้ว่าหนทางยังอีกไกล ยังมีขวากหนามอีกมากแต่เขาก็จะกัดฟันสู้ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญปัญหายิ้มสู้
ไปด้วยกัน

          “ ผมขอเป็นกำลังให้ทุกคนที่กำลังประสบปัญหาต่าง ๆ ให้สามารถผ่านจุดนี้
ไปได้ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอก คือ ขอให้กล้าที่จะเผชิญกับปัญหา เพราะผมเชื่อว่า
ทุกปัญหาที่เข้ามาในชีวิตไม่ว่าช่วงเวลาใดก็ตาม ระหว่างทางนั้นย่อมมีสิ่งที่ทำให้เรา
ได้เรียนรู้อยู่เสมอ และการวางแผนอย่างมีลำดับขั้นตอนเป็นสิ่งสำคัญเพราะเมื่อเรา
เกิดปัญหาในชีวิตขึ้นมาจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร? จะช่วยให้มีวิธีคิดและจะผ่านมันไปได้ง่ายขึ้น และเชื่ออย่างยิ่งว่า ไม่มีอะไรที่จะฉุดรั้งพวกเราที่เป็นนักสู้ชีวิตได้ “

          น้องศรเป็นกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ห่างไกลความเจริญในจังหวัดเชียงใหม่ รายได้หลักของครอบครัวมาจากพ่อและแม่ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมซึ่งรายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับผลผลิตที่ได้ในแต่ละปี ซึ่งบางปีผลผลิตออกมาไม่ดีก็ขาดทุนทำให้รายได้ไม่พอเพียงต่อการเลี้ยงปากท้องถึง 7 ชีวิต ศรช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวด้วยการทำสวนในช่วงวันหยุด และมีรายได้พิเศษจากการรับสอนหนังสือจากเด็ก ๆ ในชุมชน ซึ่งเขาเก็บค่าสอนในราคาถูกหรือบางครั้งก็ไม่เก็บเลย เพราะเขาอยากส่งต่อความรู้ที่มีสู่น้อง ๆ และบ่มเพาะให้เด็กๆ ในชุมชมได้มีความฝันของตนเอง เหมือนกับเขาที่มีความฝันอันแรงกล้าที่อยากจะเป็นครูจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ที่ไม่ได้มีต้นทุนชีวิตที่ดีกล้าที่จะมีความฝัน

          น้องศรเป็นเด็กเรียนดี กิจกรรมเด่นในสมัยเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาด้วยความเป็นผู้นำอันโดดเด่นทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และได้รับเลือกเป็นประธานสี เป็นประธานนักเรียน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีจนทำให้ศรได้รับรางวัลนักเรียนต้นแบบคุณธรรมดีเด่น 2 ปีซ้อน ได้รับรางวัลคนดีศรีเชียงใหม่ และยังได้รับรางวัลเยาวชนคนสร้างชาติ ประจำปี 2564 ที่จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อีกด้วยซึ่งยังความภาคภูมิใจให้กับน้องศรและครอบครัวเป็นอย่างมาก ปัจจุบันน้องศรกำลังศึกษาอยู่ ชั้นปีที่ 1 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในภาคเรียนที่ผ่านมาเขามีผลการเรียนที่ดีได้เกรดเฉลี่ย 3.85 น้องศรเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จว่า สิ่งสำคัญคือการวางแผนในการจัดสรรเวลา ช่วงเวลาเรียนก็คือเรียนตามปกติ เวลาหลังจากเรียน คือ เวลาส่วนตัวและเวลาที่เขาต้องไปช่วยงานครอบครัว ส่วนภาระงานที่ถูกมอบหมายจากอาจารย์ ศรมักจะทำตอนดึกๆ ส่วนการรับติวนั้นก็เป็นช่วงกลางคืนและช่วงวันหยุดเท่านั้น

          ด้วยต้นทุนชีวิตของครอบครัวที่ไม่ได้มีเหมือนคนอื่นทำให้ศรต้องเผชิญกับความยากลำบากมาตั้งแต่เกิด แต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อเพราะมีพ่อกับแม่ป็นคนต้นแบบในการสู้ชีวิต ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ชีวิตประสบปัญหาเผชิญหน้ากับความล้มเหลวมาหลายครั้งแต่ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่ครอบครัวเขาจะคิดถอย จึงเป็นแรงผลักดัน
และหล่อหลอมให้ศรมีเลือดนักสู้อยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม เขาไม่เคยคิดยอมแพ้เขามีความหวังและความต้องการที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตครอบครัวให้ดีขึ้นกว่านี้ ศรจึงตั้งใจเรียนและแสวงหาโอกาส เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงการทำตามฝันที่อยากจะเป็นครูที่ดี ครูที่เป็นครูมืออาชีพ ครูที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีและมอบอนาคตที่สดใสให้กับเด็ก ๆ แม้ว่าหนทางยังอีกไกล ยังมีขวากหนามอีกมากแต่เขาก็จะกัดฟันสู้ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญปัญหายิ้มสู้
ไปด้วยกัน

          “ ผมขอเป็นกำลังให้ทุกคนที่กำลังประสบปัญหาต่าง ๆ ให้สามารถผ่านจุดนี้ไปได้ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอก คือ ขอให้กล้าที่จะเผชิญกับปัญหา เพราะผมเชื่อว่าทุกปัญหาที่เข้ามาในชีวิตไม่ว่าช่วงเวลาใดก็ตาม ระหว่างทางนั้นย่อมมีสิ่งที่ทำให้เรา
ได้เรียนรู้อยู่เสมอ และการวางแผนอย่างมีลำดับขั้นตอนเป็นสิ่งสำคัญเพราะเมื่อเราเกิดปัญหาในชีวิตขึ้นมาจะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร? จะช่วยให้มีวิธีคิดและจะผ่านมันไปได้ง่ายขึ้น และเชื่ออย่างยิ่งว่า ไม่มีอะไรที่จะฉุดรั้งพวกเราที่เป็นนักสู้ชีวิตได้ “