เมื่อรายได้หลักของครอบครัว…หายไป
เธอจึงต้องลุกขึ้นมาทำงานเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน

นางสาววิภาพร สุขโฉม (มายมิ้นท์)
นักเรียนทุน SCG Sharing The Dream โดย มูลนิธิเอสซีจี
โรงเรียนเพชรพิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์

      มายมินท์ เด็กสาววัย 17 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชั้นปีที่ 5 เล่าถึงช่วงชีวิตที่ยากลำบาก มันเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่พ่อต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทำให้ครอบครัวเหลือกันแค่ 3 คน แม่ลูก คือตัวเธอ น้องชายและแม่ ทำให้หน้าที่เสาหลักในการเลี้ยงดูครอบครัวตกเป็นของแม่ ผู้ใหญ่ที่อยู่ในบ้าน เพียงคนเดียวในตอนนี้ เธอเห็นแม่ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าเล่าเรียนของเธอและน้อง มายมิ้นท์จึงตัดสินใจว่าอยากทำงานพิเศษเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน เพื่อที่เแม่จะได้เหนื่อยน้อยลง โดยเริ่มจากไปทำงานเป็นพนักงานดูแล และทำความสะอาดห้องพักในรีสอร์ทที่เขาค้อในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ซึ่งก็ทำให้เธอพอมีเงินใช้จ่ายดูแลตัวเองในส่วนของค่าขนมไปโรงเรียน และยังแบ่งปันให้น้องชายไว้ซื้อข้าวของที่จำเป็น โดยไม่ต้องเดือดร้อนขอเงินจากแม

      แต่ตอนนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดซบเซา ทำให้เธอได้รับผลกระทบตามไปด้วย เธอจึงมองหางานใหม่ที่จะมาเป็นรายได้เสริม จุนเจือครอบครัว ด้วยพื้นฐานที่มายมิ้นท์เป็นเด็กเรียนดี เคยประกวดแข่งขันวิชาการ ในเวทีต่างๆ ได้รับรางวัลมากมาย อาทิ การแข่งขันเล่านิทานภาษาอังกฤษ Story Telling ได้รับรางวัลเหรียญทองในระดับเขต การแข่งขันโครงงานคณิตศาสตร์ ประเภทนำไปประยุกต์ใช้ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับภาค และเป็นตัวแทนไปแข่งต่อจนได้รับรางวัลเหรียญเงินในระดับประเทศ เธอจึงนำความรู้ที่มีอยู่ติดตัวมาสร้างอาชีพ เป็นครูสอนพิเศษให้เด็กๆ ในชุมชน โดยมายมิ้นท์รับสอนเป็นรายบุคคล แบบตัวต่อตัว คิดชั่วโมงละ 200 บาท ทำให้เธอกลับมามีรายได้สามารถเอาตัวรอดได้ในยามวิกฤต โดยมายมินท์ได้จัดตารางชีวิตขอตัวเองให้ในวันจันทร์ถึงศุกร์ทุ่มเทให้กับการเรียน อย่างเต็มที่ ทำการบ้าน ทำรายงาน ทบทวนบทเรียน ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์เป็น เวลาของการสอนพิเศษ แล้วช่วยแม่ทำงานบ้าน

มายมินท์ เด็กสาววัย 17 ปี ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ชั้นปีที่ 5 เล่าถึงช่วงชีวิตที่ยากลำบาก มันเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่พ่อต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทำให้ครอบครัวเหลือกันแค่ 3 คน แม่ลูก คือตัวเธอ น้องชายและแม่ ทำให้หน้าที่เสาหลักในการเลี้ยงดูครอบครัวตกเป็นของแม่ ผู้ใหญ่ที่อยู่ในบ้าน เพียงคนเดียวในตอนนี้ เธอเห็นแม่ที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าเล่าเรียนของเธอและน้อง มายมิ้นท์จึงตัดสินใจว่าอยากทำงานพิเศษเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน เพื่อที่เแม่จะได้เหนื่อยน้อยลง โดยเริ่มจากไปทำงานเป็นพนักงานดูแล และทำความสะอาดห้องพักในรีสอร์ทที่เขาค้อในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ซึ่งก็ทำให้เธอพอมีเงินใช้จ่ายดูแลตัวเองในส่วนของค่าขนมไปโรงเรียน และยังแบ่งปันให้น้องชายไว้ซื้อข้าวของที่จำเป็น โดยไม่ต้องเดือดร้อนขอเงินจากแม

      ทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อยมากๆ ที่ต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่พอได้นั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกัน ได้นอนคุยกันกับแม่และน้องชาย แค่นี้เธอก็รู้สึกว่าได้รับพลังมหาศาลทำให้หายเหนื่อยและมีความสุข พร้อมที่จะต่อสู้กับอุปสรรคและความยากลำบากในชีวิตต่อไป เพราะทุกคน ในครอบครัวคือแรงบันดาลใจและแรงผลักดันที่ทำให้เธอตั้งใจจะ พัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น

“เราทุกคนล้วนมีสิทธิ์ที่จะรู้สึกเหนื่อย รู้สึกท้อ รู้สึกว่าชีวิตมันช่างยากลำบาก แต่ทุกครั้งที่เหน็ดเหนื่อย อยากจะให้ลองทบทวนคิดถึงเหตุผล ทำไมเราถึงต้องพยายาม ทำไมเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าคำตอบคือเพื่อคนที่เรารัก คือคนในครอบครัว อยากให้มองกลับไปที่คนที่เรากำลังพยายามทำเพื่อเขา แล้วเดี๋ยวเราก็จะมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมาเอง รู้สึกท้อได้ค่ะ แต่อย่าถอย พยายามสู้ต่อไป เพราะความสำเร็จเป็นของคนที่มีความพยายามเสมอ”